Blue Pagoda ชาอู่หลง

Description

Blue Pagoda ชาอู่หลง

ที่ผ่านมา แฟนเพจของเราได้มีโอกาสลิ้มลองชาจากหลากหลายแหล่งปลูกทั่วเอเชีย โดยจะหนักไปที่จีน ญี่ปุ่น และไทยเสียเป็นส่วนใหญ่ ในวันนี้ ทางเราได้เพิ่มชาเข้ามาหนึ่งตัว ตัวนี้เป็นตัวที่ limited มาก และพิเศษมากจริงๆ และชาตัวนี้เป็นชาตัวเดียวที่ทางเพจชอบมาก จนถึงกับต้องโทรไปบอกลูกค้าเก่าและลูกค้าประจำของทางเพจ บรรยายว่าชาตัวนี้มีดีขนาดไหน รวมถึงส่งไปถวายพระ เพื่อให้ท่านได้ลิ้มลอง ซึ่งผลตอบรับที่ได้กลับมาค่อนข้างดีพอสมควร วันนี้เราจึงตัดสินใจลองนำมาโพสต์ดู เผื่อมีท่านอื่นๆที่อาจสนใจจะได้มีโอกาสลิ้มลองอู่หลงตัวใหม่นี้ดูครับ

ก่อนอื่น บางท่านอาจทราบกันมาก่อนว่า ยอดอ่อนของชาที่โผล่ขึ้นมาในช่วงที่ฝนไม่ตกนั้น รสชาติจะเข้มข้นมากกว่าใบชาที่ถูกหยาดฝนชะล้างในช่วงหน้าฝน เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงครับ ความรู้นี้ถูกใช้เป็นเทคนิคในการเก็บใบชา โดยหลู่ยู่ ปราญช์ชาวจีนผู้แต่งหนังสือ The Classic of Tea เมื่อ 1200 ปีก่อน ได้ระบุเคล็ดลับในการเก็บใบชาว่าต้องเก็บในตอนเช้าของวันที่อากาศสดใส ห้ามเก็บใบชาในวันที่ฝนตก ซึ่งเทคนิคนี้ได้ถูกใช้กันทั่วโลก เพราะเป็นที่รู้กันว่า หากใบชาถูกน้ำฝนชะล้างแล้ว รสชาติของใบชาจะไหลไปกับสายน้ำ เมื่อนำใบเหล่านั้นมานวดเป็นชา ชาที่ได้จะรสจืดชืด กลายเป็นชาไม่อร่อยไปเสีย

ด้วยเหตุนี้ครับ ชาในช่วงดูฝน ราคาจึงตกต่ำลงมามากกว่าครึ่ง สาเหตุเป็นเพราะใบชามีรสชาติไม่เข้มข้นเท่ากับใบชาที่เก็บได้ในช่วงก่อนเข้าฤดูฝนนั่นเอง

ชาอู่หลง ตัวนี้ คือชาที่เก็บในเดือนมกราคมนี้เองครับ ไร่ชาอยู่ที่ตองจี สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ ประเทศข้างๆเรานี่เอง ตองจีนั้นอยู่สูงกว่าไทย อากาศดีกว่า ธรรมชาติดีกว่า ดังนั้น ในเขตภาคเหนือของเมียนมาร์ จึงสามารถปลูกชาที่ให้รสชาติดีได้ไม่แพ้พื้นที่อื่นๆครับ

แต่ก็อย่างว่า ถึงแม้ใบชาตั้งต้นจะเป็นสายพันธุ์ดี รสชาติดีเพียงใด หากกระบวนการผลิตหลังจากนั้นไม่ดีแล้ว ผลิตภัณฑ์ชาที่ออกมา ก็คงจะรสชาติไม่ดีแน่ ซึ่งตรงจุดนี้หายห่วงได้ครับ เพราะโรงงานที่ทำชาตัวนี้ออกมาเป็นโรงงานของชาวไต้หวันครับ เข้าไปลงทุนในเมียนมาร์ ผลิตชาออกมา แล้วส่งไปจำหน่ายที่ไต้หวัน

แฟนเพจที่เป็นแฟนอู่หลง สามารถเช็คดูคุณภาพของชา และมาตรฐานของโรงงานผลิต ได้จากรูปลักษณ์ของเม็ดชาครับ จะเห็นได้ว่าเม็ดชากลมสวยงาม แทบทุกเม็ดมีขนาดเท่ากัน เพราะการผลิตได้มาตรฐาน มีการควบคุมตั้งแต่ใบชาสดที่เก็บมา ว่าต้องเป็นส่วนยอดเท่านั้น เมื่อนำมาม้วนอัดเป็นเม็ด จึงมีขนาดออกมาเท่ากันแบบนี้

เนื่องจากเป็นชาก่อนฤดูฝน (อารมณ์เดียวกันกับหมิงเฉียนหลงจิ่ง ที่เก็บก่อนเทศกาลเช็งเม้ง) จึงผลิตออกมาได้ครั้งเดียวในแต่ละปี รอบนี้ทางไร่ผลิตออกมาได้เพียง 200 กิโลกรัมครับ ผมได้มาเพียงนิดเดียว ตั้งใจไว้ว่าจะเก็บไว้ดื่มเอง กับขายให้เฉพาะลูกค้าเก่าของเราเท่านั้น เพราะลูกค้าชาวไทยอาจจะยังไม่ชินกับชาจากเมียนมาร์ เนื่องจากยังไม่มีการเผยแพร่ข้อมูลมากนักว่าประเทศที่อยู่ติดกันกับเรา ก็มีชาที่รสชาติดี และอร่อยอยู่ด้วยเช่นกัน

อู่หลงตัวนี้คือสายพันธุ์หร่วนจือครับ หรือที่คนไทยเรียกติดปากกันว่าสายพันธุ์ก้านอ่อน (軟枝 ภาษาจีน หร่วนจือ แปลตรงตัวว่าก้านอ่อน) สายพันธุ์นี้เป็นสายพันธุ์ที่มีกลิ่นหอมมากตามธรรมชาติ บางท่านเคยถามผมว่าอู่หลงก้านอ่อนคือเกรดพรีเมี่ยมเหรอ ผมขอตอบว่าไม่ใช่ พันธุ์ก้านอ่อนราคาสูงเพราะต้นชาบอบบาง ไม่ทนโรคครับ ราคาจึงสูงกว่าเพื่อน ที่เป็นสายพันธุ์อื่นๆ

กลิ่นของชาหอมมากตามธรรมชาติครับ เปิดกระปุกดมออกมาแล้วความรู้สึกเหมือนถูกมนต์สะกดไปเลย เมื่อนำมาชงแล้วได้น้ำใสสีเหลืองอ่อนออกไปทางเขียว กลิ่นมีท็อปโน้ตของ lemon และ jasmine รสชาติของน้ำชานุ่มละมุน ไม่ขม ไม่ฝาด มีหวานติดปลายลิ้นเล็กน้อย จากที่ขายชามาหลายปี ดื่มชาสุดยอดๆมาหลายแหล่ง ขอบอกเลยว่าตัวนี้ผมยอมไปซื้อน้ำแร่มาชงครับ ขนาดดื่มจินจวิ้นเหมย หรือหมิงเฉียนหลงจิ่ง ยังใช้น้ำดื่มธรรมดาชง แต่ตัวนี้ยอมทุ่มสุดตัว ถึงขนาดต้องไปซื้อน้ำแร่มาชงกันเลยทีเดียว

ชาอู่หลง จากตองจีตัวนี้ เราขอตั้งชื่อว่า Blue Pagoda ครับ ให้สมกับที่เมียนมาร์เป็นเมืองแห่งพระพุทธศาสนา มีเจดีย์วัดวาอารามเยอะไม่แพ้เมืองไทยของเรา ในส่วนของ Blue นั้นใช้แทนคำว่าอู่หลง

Blue Pagoda
– The best tea from Taunggyi, Burma. Tea trees are grown on high mountains among primeval and refined rain forest. Made with Taiwanese technology and technique. Harvested only once a year in winter.

บรรจุถุงซิปล็อค 100 กรัม 580 บาท

KYOBASHI chiang rai

Facebook Fanpage : รู้เฟื่องเรื่องชา