ต้นกำเนิดแห่งสายพันธุ์

ในทางพฤกษศาสตร์ เชื่อกันว่าต้นชาที่มีอยู่หลากหลายสายพันธุ์ แท้จริงแล้วมีถิ่นกำเนิดอยู่ในแถบยูนนาน ไม่ใกล้ไม่ไกลจากไทย อยู่เหนือจากเชียงรายขึ้นไปนิดเดียว ซึ่งบรรพบุรุษของต้นชานี้ พอถูกลม ฝน นก สิงสาราสัตว์แพร่กระจายเมล็ดไปยังที่ต่างๆ ก็เกิดการวิวัฒนาการสายพันธุ์โดยปรับตัวไปตามสภาพแวดล้อมของแต่ละที่ที่เมล็ดแพร่พันธุ์ไป

ใบของต้นชาพันธุ์อะสะฮิ あさひ Asahi

เป็นพันธุ์พื้นเมืองของอุจิ เกียวโต เหมาะสำหรับทำเกียวขุโระ และมัทฉะ

ที่ญี่ปุ่นจะไม่มีการใช้พันธุ์ยะบุขิตะทำเกียวขุโระและมัทฉะ เพราะมีรสชาติขม เหมาะสำหรับทำเซนฉะเพียงอย่างเดียว

“ชาแดงฉีเหมิน” (Keemun)

“ชาแดงฉีเหมิน” (Keemun) คือชาจากประเทศจีน ตั้งชื่อตามเมืองฉีเหมิน มณฑลอันฮุย มีกลิ่นหอมดอกไม้ คล้ายกลิ่นกล้วยไม้ มีคุณสมบัติช่วยทำให้รู้สึกสดชื่น

“มากกว่าชา” หนังสือที่พาคุณไปเรียนรู้วัฒนธรรม ญี่ปุ่นผ่านการชงชา

“มากกว่าชา” เป็นสารคดีชนะเลิศรางวัลแว่นแก้วครั้งที่ 13 เป็นเสมือนบันทึกการใช้ชีวิตในประเทศญี่ปุ่นปีสุดท้ายของผู้เขียน เรื่องราวเริ่มต้นจากการที่ผู้เขียนมีความสนใจอยากเปิดร้านชาในเมืองไทยทำให้ผู้เขียนตัดสินใจสมัครเรียนชงชาที่ “สำนักอุระเซนกะ”

“ชาดาร์จีลิ่ง” (Darjeeling tea)

“ชาดาร์จีลิ่ง” (Darjeeling tea) คือชาที่มีชื่อเสียงมากอีกชนิดหนึ่งของอินเดีย มีพื้นที่ปลูกอยู่ที่เมืองดาร์จีลิ่ง ในรัฐเวสต์เบงกอล ใกล้ๆกับเทือกเขาหิมาลัย ปัจจุบันมีไร่ชาประมาณ 85 แห่ง

“ชาอัสสัม” (Assam Tea)

“ชาอัสสัม” (Assam Tea) คือชาดำ ที่ถูกปลูกขึ้นในรัฐอัสสัม ประเทศอินเดีย มีรสและกลิ่นของชาค่อนข้างเข้ม นิยมนำไปเบลนด์เป็น English Breakfast หรือผสมนม ชงเป็น milk tea

ว่าด้วยชาอุจิ 宇治茶に関してต้นกำเนิด ชาเขียว มัทฉะ

หลายสัปดาห์ก่อนสัญญาไว้ว่าจะนำเรื่องราวเกี่ยวกับชาอุจิมาเขียนให้ได้อ่านกัน หลังจากสะสางธุระปะปังรวมทั้งงานหลายอย่าง วันนี้มีเวลาว่างมาเขียนให้ได้อ่านกันแล้วครับ อาจจะยาวไปสักนิดหนึ่ง หากไม่มีเวลาอ่านตอนนี้ แชร์ไว้อ่านวันหลังกันก็ได้ครับ
.

Wuyi Jin Jun Mei 武夷金骏眉

ชาจากอู่อี๋ซานกำลังทยอยเดินทางมาถึงครับ ตัวแรกนี้เป็นจินจวิ้นเหมย ช่วงก่อนปีใหม่ผมเขียนบทความเรื่องเกาซานจินจวิ้นเหมย 高山金骏眉 กับผิงตี้จินจวิ้นเหมยไป 平地金骏眉 โดยอ้างอิงจากหนังสือของเจิ้งซานถาง 正山堂 ผู้ผลิตจินจวิ้นเหมยเป็นเจ้าแรก

สวัสดีครับ ผมชื่อ “โกะโค” 五香 มาจากเกียวโตครับ 🌱🌱🍵

ใกล้ๆกับอำเภออุจิ จังหวัดเกียวโต ห่างไปสัก 2-3 กิโลเมตร คืออำเภอเคียวตะนะเบะ เป็นแหล่งปลูกเกียวขุโระชั้นดี ที่นี่จะเด็ดยอดต้นชาด้วยมือเท่านั้น จากนั้นจึงนำไปทำเป็นชาแห้งโดยใช้เครื่องจักร ที่มีมนุษย์ควบคุมอยู่ทุกขั้นตอน

อู่หลงเบอร์ 13 (ชุ่ยยู่ 翠玉)

โดยทั่วไปแล้วในเมืองไทย เราจะเห็นแต่ชาพันธุ์เบอร์ 12 (จินเชวียน) หรือ 17 (หร่วนจือ) ใช่มั้ยครับ วันนี้เลยเอาต้นชาอีกสายพันธุ์หนึ่งมาให้ดูกัน