ชาที่อยู่ในรูปคือ ทะมะเรียวขุฉะ 玉緑茶 เป็นชาเขียวประเภทหนึ่งของญี่ปุ่น (ชาญี่ปุ่นไม่ได้มีเฉพาะเซนฉะกับมัทฉะนะครับ 555) เป็นชาที่ได้รับอิทธิพลมาจากจีน กรรมวิธีเก่าแก่กว่าเซนฉะ เพราะเป็นชาเขียวที่หยุดการ oxidation โดยการคั่วใบชาบนกระทะ จากนั้นจึงนำไปนวดแล้วทำให้แห้ง
อย่างไรก็ตาม หลังจากสงครามโลกครั้งที่สองเป็นต้นมา การผลิตชาในญี่ปุ่นพัฒนาไปไกลมาก มีการคิดค้นเครื่องจักรเข้ามาแทนที่แรงงานมนุษย์ทั้งหมด ทำให้ในปัจจุบัน ทะมะเรียวขุฉะ ถูกแบ่งออกได้เป็นประเภทที่ถูกหยุด oxidation โดยทั้งการคั่ว และการนึ่งแบบเดียวกับเซนฉะ ซึ่งในส่วนของการนวด จะตัดขั้นตอนการนวดให้ใบชาเป็นเส้นตรงแบบเซนฉะออก ทำให้ทะมะเรียวขุฉะมีลักษณะเป็นเส้นโค้งงอ ซึ่งในอดีตจะใช้การนวดมือ ให้ใบชาเป็นเส้นโค้ง เป็นที่มาของชื่อ ทะมะเรียวขุ ที่แปลว่า ก้อนเขียวๆกลมๆ เป็นคำที่ใช้เรียกชื่อของชาตามลักษณะที่ปรากฏ
ปัจจุบัน ทะมะเรียวขุฉะ ยังคงถูกผลิตมากตามจังหวัดต่างๆบนเกาะคิวชู ซึ่งในอดีต พื้นที่นี้มีการติดต่อกับจีนและเกาหลีมาก จึงได้รับอิทธิพลในเรื่องชามามากนั่นเอง (เก็บชาเสร็จก็เอามาคั่วบนกระทะแบบจีน)
ทะมะเรียวขุฉะตัวนี้ เป็น Single Origin จากไร่ชาบนเกาะคิวชูครับ สายพันธุ์สะเอะมิโดะริ เป็นสายพันธุ์ใหม่ ที่ดังมาก และรสชาติดีมาก (ส่วนตัวชอบพันธุ์นี้มาก) ปกติจะใช้ทำมัทฉะ กับเกียวขุโระ เพราะพันธุ์นี้ให้สีเขียวที่สดเข้มข้นมาก ต้นชาค่อนข้างแข็งแรง โตเร็ว ไร่นี้คุณลุงคนปลูกใช้แต่ปุ๋ยหมักครับ เป็นปุ๋ยสูตรที่ใช้เลี้ยงต้นชาสำหรับทำเกียวขุโระ แต่ใบชาที่เก็บได้ เอามาทำทะมะเรียวขุ ซึ่งเป็นชาเด่นของเกาะคิวชู
ชาตัวนี้เก็บปีละ 1 ครั้งเท่านั้น ผลผลิตต่อปีอยู่ที่ 150-160 กิโลกรัม คุณลุงในสมาคมชาญี่ปุ่นแนะนำผมมาว่าไร่นี้ดีจริง คุณลุงคนปลูกเขามีโรงงานเล็กๆในไร่ เก็บเสร็จก็ทำเป็นอะระฉะ 荒茶 (ใบชาแห้ง) กันในไร่นั้นเลย
รสชาติชาที่ชงออกมาจะค่อนข้างหวานครับ (เอกลักษณ์ของสะเอะมิโดะริ) บอดี้หนามาก ดื่มเข้าไปได้อารมณ์ความรู้สึกเต็มปากเต็มคำ ได้กลิ่นชา กับกลิ่นอุมามิแบบจัดเต็ม โดยมีกลิ่นหอมคั่วท้ายๆ ดื่มไปแล้วครึ่งชั่วโมงก็ยังมีความกลมกล่อมของชาติดปากอยู่ไม่หาย ถือว่าเป็นชาเขียวที่ดื่มได้อร่อยจริงๆ อ้อ แล้วตัวนี้รสไม่ฝาดไม่ขมครับ
จะมีโน้ตไว้นิดนึงว่าชาของไร่นี้ใบจะค่อนข้างละเอียดครับ แต่รสชาติจัดจ้านแบบสุดๆ
KYOBASHI chiang rai