ใบชาพันธุ์อัสสัม มีขนาดใหญ่มาก
หลายร้อยปีก่อน มนุษย์เชื่อกันว่าต้นชาเป็นพืชที่ขึ้นอยู่เฉพาะในประเทศจีนเท่านั้น จนกระทั่งอังกฤษยึดอินเดียเป็นอาณานิคม จึงมีการสำรวจป่า เพื่อค้นหาพืชที่จักรวรรดิอังกฤษสามารถนำไปเพาะปลูกเพื่อค้าขายได้ ในช่วงแรก นักสำรวจชาวอังกฤษสังเกตว่าชนพื้นเมืองชาวอัสสัมมีการบริโภคใบของพืชชนิดหนึ่งอยู่แล้ว โดยนำใบมาตากแห้งแล้วดื่มเป็นเครื่องดื่มสมุนไพร ชาวอังกฤษบางคนลองนำใบตากแห้งของพืชชนิดนั้นมาแช่น้ำดื่มบ้าง และพบว่ามันมีรสชาติคล้ายกับชาจีน
ทว่าอังกฤษก็ต้องใช้ความพยายามหลายปี นักพฤกษาศาสตร์ที่ทำการตรวจสอบเมล็ดและต้นอ่อนของพืชบอกเพียงว่ามันอาจจะเป็นต้นคาเมลเลียชนิดหนึ่ง จนกระทั่งมีการยืนยันจากคนจากยูนนาน ว่าต้นชาที่ขึ้นที่ยูนนานมีลักษณะเหมือนกับต้นชาที่อัสสัมทุกประการ อังกฤษจึงประกาศการค้นพบชาอัสสัม และมีการยอมรับว่าต้นชาพันธุ์อัสสัมเป็นพืชพื้นเมืองชนิดหนึ่งของอินเดีย
ต้นชาพันธุ์อัสสัมเป็นพืชที่ขึ้นอยู่แล้วตามธรรมชาติในประเทศอินเดีย พม่า ไทย ลาว กันพูชา รวมไปจนถึงทางตอนใต้ของจีน ชาวไทยภาคเหนือในอดีตนำใบชามาหมักทำเป็นเมี่ยง ดังนั้นจึงมีการปลูกต้นชาพันธุ์อัสสัมอยู่ทั่วไปตามจังหวัดในภาคเหนือ จนกระทั่งเมี่ยงเริ่มหมดความนิยมลง และผู้เข้าครอบครองไร่ต้นเมี่ยงรุ่นต่อมาก็หันมาผลิตชา เพื่อป้อนให้กับตลาดของผู้นิยมดื่มชาที่กำลังเป็นกระแสอยู่ในปัจจุบัน
KYOBASHI รู้เฟื่องเรื่องชา