เก๊กฮวยเป็นพืชชนิดหนึ่งในตระกูลดอกเบญจมาศ ดอกเบญจมาศมีหลายชนิด หนึ่งในนั้นคือเก็กฮวย มีถิ่นกำเนิดอยู่ที่จีนและญี่ปุ่น โดยที่เมืองจีน ดอกเก๊กฮวยถูกจดจำในฐานะชาดอกไม้ เพราะมีการดื่มเก๊กฮวยเป็นชามานานกว่า 2,000 ปีแล้ว ส่วนในญี่ปุ่น รู้จักดอกเก๊กฮวยกันในฐานะยาสมุนไพรชั้นดีที่มีสรรพคุณหลายอย่าง ซึ่งหลักๆจะเป็นการบำรุงสายตา เพราะเก๊กฮวยมีวิตามิน A ค่อนข้างเยอะ นอกจากนั้นเก๊กฮวยยังถูกดื่มเพื่อเป็นยาขับพิษออกจากตับ และเป็นยาแก้ร้อนใน เนื่องจากเก๊กฮวยเป็นพืชที่เป็นหยิน จึงมีฤทธิ์เย็น ดับความร้อนในร่างกายได้ดี
.
เก๊กฮวยเป็นพืชเมืองหนาว หากปลูกในที่ร้อนดอกจะไม่ใหญ่ ดอกเก๊กฮวยนี้ ที่เมืองจีนเรียกว่า จู๋ฮวา 菊花 ที่เมืองจีนปลูกกันมากที่หางโจว อันฮุย และหูหนาน เป็นพืชที่ลามมาถึงประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วย แต่จะปลูกในสถานที่ที่มีอากาศเย็น เช่น บนดอยต่างๆตามจังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ เป็นต้น
.
ดอกเก๊กฮวยนั้น ที่ญี่ปุ่นจะเรียกรวมๆกันกับดอกเบญจมาศว่า ขิคุ 菊 ไม่ได้มีคำเรียกเฉพาะออกไปแต่เรียกรวมๆกัน ซึ่งดอกขิคุนี้ เป็นสัญลักษณ์ประจำราชวงศ์ของญี่ปุ่น หรือถ้าใครเคยไปเที่ยวญี่ปุ่น จะเห็นสัญลักษณ์ดอกไม้มีกลีบแยกเป็นแฉกประดับอยู่ตามประตูวัดวาอารามต่างๆ นั่นคือดอกเก๊กฮวยหรือดอกเบญมาศนั่นเอง
.
ที่ญี่ปุ่น นิยมใช้ดอกเก๊กฮวยและเบญจมาศมาประดับในพิธีเฉลิมฉลองและอวยพรให้อายุยืนยาว โดยจะนำดอกเก๊กฮวยลงไปลอยอยู่ในถ้วยเหล้าญี่ปุ่น เพราะเก๊กฮวยเป็นพืชมงคล ที่ถูกใช้เป็นยาบำรุงรักษาร่างกาย จึงเกิดความเชื่อเรื่องโชคลางว่าเก๊กฮวยเป็นพืชที่ทำให้อายุยืน
.
เก๊กฮวยที่ปลูกกันในจังหวัดเชียงราย จะเริ่มเก็บกันตั้งแต่ช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนธันวาคม เก๊กฮวยของเราใช้วิธีปลูกแบบออร์แกนิคครับ ไม่ใช้สารเคมีใดๆเลย ในไร่จะได้ยินเสียงผึ้งประสานเสียงกันดังกระหึ่ม ตัวดอกหอมมาก เราใช้วิธีการอบในเตาอบลมร้อนแทนการตากแดดเพื่อรักษาสีดอกและเกสรไม่ให้ช้ำ สีจึงออกมาสวยอย่างที่เห็นครับ
KYOBASHI chiang rai